Hair World Plus

บทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Tyler Johnston & Lesley Jennison 2 แฮร์สไตลิสต์ระดับท็อปของโลก

เป็นอีกครั้งที่ Hairworld Plus+ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ 2 กูรูช่างผมระดับโลกจากค่าย Schwarzkopf Professional นั่นก็คือ Tyler Johnston และ Lesley Jennison ซึ่งทั้งคู่เป็น Global Ambassador ของ Schwarzkopf Professional และนับเป็นครั้งที่ 2 ที่ทั้งคู่ได้มีโอกาสบินลัดฟ้า เพื่อมาโชว์เทรนด์ผมล่าสุดจาก EL Collection หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Essential Looks Autumn/Winter 2/2019 ซึ่งมีด้วยกัน 3 เทรนด์ ให้ชาวไทยได้อัพเดตเทรนด์ผม พร้อมเทคนิคการตัดผมและการทำสีผมสุดล้ำให้ช่างผมไทยได้เรียนรู้กันอีกด้วย โดยงานนี้จัดขึ้น ณ โรงแรม St.Regis กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ส่วนเทรนด์ทั้ง 3 แบบที่ว่านี้คือ Color Clash, Urbaganza และ Texture Tension โดยมีเทคนิคใหม่ๆ อย่าง Rain Color มาให้ช่างผมไทยได้นำไปใช้ ซึ่งในแต่ละแบบก็มีความโดดเด่นเฉพาะตัวไม่แพ้กันเลย

ถ้าจะพูดถึงชื่อเสียงหรือ Profile ของทั้งสองท่านนี้ก็คงจะพร่ำพรรณนากันไม่จบ เพราะต่างคร่ำหวอดอยู่ในวงการช่างผมมาหลายสิบปี อย่าง Tyler เองก็ทำผมให้กับซุปตาร์หรือเซเลบดังระดับโลก อาทิ David-Victoria Beckham, Cindy Crawford, Amy Winehouse, Lily Allen เป็นต้น และหน้าที่ของทั้งสองคนนี้คือเป็นผู้กำหนดเทรนด์ผมโลก คนหนึ่งจะโดดเด่นเรื่องของการตัดผม ที่มีเทคนิคเฉพาะตัว ส่วนเรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึง อีกคนหนึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น Expert ด้านการทำสีผมที่มีพรสวรรค์มากทีเดียว ส่วนใครจะทำหน้าที่อะไร อย่างไร ไปติดตามกันได้ใน Your Top Hairstylist ฉบับนี้กันเลย

ขอให้ทั้งสองท่านแนะนำตัวกันหน่อย

Tyler: ผมชื่อ Tyler เป็นช่างผมและทำงานด้านนี้มาโดยตลอด ผมรักทุกอย่างที่เกี่ยวกับ “ผม” หลงใหลในการทำงานด้านนี้เอามากๆ ผมมีความสุขทุกครั้งที่ทำให้ลูกค้าดูสวย ดูหล่อขึ้น และทำให้พวกเขามีความสุข ผมจบที่ Vidal Sassoon และเริ่มทำงานในวงการด้วยการทำผมให้กับศิลปินซึ่งตอนนั้นอยู่ที่เมือง Manchester, UK แหล่งรวมพวกศิลปินแนว Underground และก็ศิลปินต่างๆ เช่น วง Happy Mondays, Spice Girls และทำงานให้กับพวกนิตยสารแฟชั่นและทีวีด้วย

Lesley: ฉันชื่อ Lesley เป็นช่างผมมายาวนานมาก ทำให้งานกับ EL กับ Tyler มา 13 ปี แต่เป็นช่างผมมานานกว่านั้นนะ แต่ก่อนเคยอยากเป็นช่างแต่งหน้าให้กับวงการ TV แต่ตอนนั้นมีแต่ตำแหน่งช่างผม ก็เลยไปเรียนที่ Vidal Sassoon แต่พอได้ไปเรียนวันแรกก็หลงรักการทำผมตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้เลย

รักอะไรในการเป็น “ช่างผม”

Lesley: ฉันรักทุกอย่างที่เกี่ยวกับอาชีพนี้ ฉันชอบการทำสี ชอบการสอน ได้เรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ลอง ได้เล่นอะไรใหม่ๆ

Tyler: ง่ายๆ เลย เพราะผมชอบการที่ทำให้คนดูดีขึ้น

Schwarzkopf Professional (SKP) โดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่นยังไง?

Tyler: อะไรทำให้ผมอยู่กับ SKP มาตลอด 19 ปีนะเหรอ? เพราะผมเชื่อมั่นใน SKP ไง เพราะเขาให้อิสระในการทำงาน ผมได้ครีเอทงานได้อย่างเต็มที่ และมีออฟฟิศอย่างเจ๋งที่ Hamburg และผมได้มีโอกาสบอกคนทั้งโลกให้ได้เห็นสิ่งที่ผมทำ มันสุดยอดมากๆ ได้ครีเอท ได้เปิดใจ และมีอิสระ ให้ผมได้เป็นตัวของตัวเอง ผมว่าตรงนี้คือสิ่งสำคัญที่สุด

Lesley: ทำงานกับ SKP 14 ปี สิ่งที่ชอบมากที่สุดคือ แบรนด์นี้มองไปข้างหน้า ทะยานไปข้างหน้าแบบว่า “ล้ำหน้า” คนทำงานก็เปิดกว้าง และคิดนอกกรอบอยู่เสมอ

เผยความลับของคุณให้เรารู้หน่อย อาวุธลับของคุณคืออะไร?

Tyler: ก็มันเป็นความลับไงบอกไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ ผมล้อเล่น ผมคิดว่ามันคือ “ความซื่อสัตย์ที่มีให้กับงานของผม” นั่นแหละคืออาวุธลับของผม

Lesley: สำหรับฉันคิดว่าอาวุธลับก็คือ “ความรู้”เราต้องอ่าน ต้องเรียนรู้และศึกษาอยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ต้องรู้ให้ครบ รู้ให้จริง

สิ่งพื้นฐานที่ช่างผมควรจะต้องรู้ก่อนที่จะมาเป็นช่างผมในความคิดของคุณคืออะไร?

Tyler: ข้อที่หนึ่งเลย คุณจะต้องเป็นคนที่เปิดใจ เปิดกว้างก่อน ทำในสิ่งที่คุณเชื่อมั่น และสิ่งสุดท้ายเป็นสิ่งที่ผมสอนช่างผมรุ่นใหม่ทุกคนคือ ต้อง “เป็นตัวของตัวเอง” อย่าไปแคร์ว่าใครจะว่ายังไง ให้เป็นตัวของคุณเองก็พอ

Lesley: สำหรับฉัน ต้องมี “ศรัทธา”ในสิ่งที่ทำ แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแบบทะลุปรุโปร่งให้ได้ก่อน!! และต้องเปิดใจด้วย อย่าหยุดเรียนรู้ หรือคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว คุณต้องเปิดรับทุกอย่างโดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ

มีอะไรที่คิดว่าเป็นอุปสรรคในการสอนไหม หรือมีอะไรยากที่สุดในการสอนบ้างไหม?

Tyler: เรื่องความยากก็ไม่มีนะ มีแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นห่วงคือ กลัวว่าจะให้เขาไม่หมดมากกว่า คือมีเวลาสอนน้อย ให้เขาได้ยังไม่เต็มที่มากกว่า แต่ตอนนี้หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไปนะ สื่อออนไลน์ต่างๆ ก็เข้ามาเยอะ สะดวกกว่าเดิมมากเลย ทำให้เราหาความรู้ใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น

Lesley: ส่วนตัวก็ไม่มีนะ ฉันรักการสอน แต่ก็เหมือน Tyler นะ ฉันอยากจะสอนให้ได้เต็มที่มากกว่า

อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการครีเอท EL Collection

Tyler:  ก็คิดว่าไม่มีนะ เพราะการครีเอทงานของเรามันไม่เคยจะตัน แต่คิดว่าบางทีอยากจะทำมากกว่านั้นด้วยซ้ำ อยากให้ครอบคลุมทุกตลาดมากกว่า ให้มีนางแบบเพิ่ม ให้เราได้คิดต่อยอดไปอีก

Lesley: ก็คิดเหมือนกันค่ะ ฮ่าๆๆๆ

ชอบเทรนด์ไหนมากที่สุดใน EL Collection นี้ แล้วเทรนด์ไหนเหมาะกับคนไทยมากที่สุดในความคิดของคุณ?

Tyler:  อันที่เป็น Contrast Texture ของสาวบราซิเลี่ยน ที่ตัดได้อย่างอิสระ หรือ Free Hand ผมทรงกลม ใหญ่ๆ ผมชอบ ส่วนทรงที่เหมาะกับคนไทยผมคิดว่าทุกทรงก็ได้ทั้งหมดนะ แต่ที่คิดว่าน่าจะ Popular ที่สุดก็น่าจะเป็น Urbaganza No. 2

Lesley: ชอบเรื่องการบรีชสีผม อยากจะโชว์ตรงนี้ ส่วนทรงที่เหมาะกับคนไทยก็สีบรอนด์ ฉันก็จะเลือก No. 2 เหมือนกัน น่าจะเหมาะกับสีผิวคนไทย

มีปัญหาในการตัดผมคนเอเชียบ้างไหม เพราะเส้นผมคนเอเชียค่อนข้างสีเข้ม และดำมากๆ เป็นอุปสรรคในการทำสี หรือตัดบ้างไหม?

Tyler: ไม่มีปัญหานะ สำหรับผมก็ตัดได้หมดแม้ว่าเส้นผมจะมีความแตกต่างกัน

Lesley: ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เรื่องการทำสี ไม่ว่าสีผมจะเข้มแค่ไหน ฉันก็จะฟอกสี ทำสีแค่ครั้งเดียว คือเราต้องรู้และเข้าใจเรื่องของสีให้ถ่องแท้ ก็ไม่มีปัญหา

สุดท้ายอยากจะฝากอะไรถึงช่างผมไทย

Tyler: ขอให้เป็นตัวของตัวเองต่อไป ทำในสิ่งที่คุณเชื่อ และอย่ากลัวที่จะทำ ต้องกล้าหาญในสิ่งที่ทำ

Lesley: จากที่ฉันได้ท่องเที่ยวมาเกือบทั่วโลก ประเทศไทยเป็นประเทศที่ฉันชอบมากที่สุดในโลก ทุกครั้งที่ฉันทำงานที่นี่ฉันรู้สึกว่าช่างผมไทยนี้มี Passion ความหลงใหลในอาชีพ ความรักในอาชีพของพวกเขาเหลือเกิน ฉะนั้นสิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ ขอให้มี Passion ต่อไป และเปิดใจไว้ตลอด อย่าหยุดเรียนรู้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ

มีอะไรอยากจะพูดถึง Hairworld Plus+ บ้าง

Tyler: ผมอยากจะขอบคุณ Hairworld Plus+ มากครับ และตั้งตารอว่าผมจะได้เจอ Hairworld อีกทุกปีเลย!!! ฮ่าๆๆๆ  อยากให้มาอัพเดตกันแบบนี้ทุกปีครับ

Lesley: ใช่ๆ ถูกต้องเลย เราต้องได้เจอกันทุกปีนะ และอยากจะขอบคุณ Hairworld Plus+ มากๆ เป็นสื่อที่ไม่หยุดนิ่ง คุณน่าทึ่งมากๆ โดยเฉพาะเรื่อง Application และหนังสือของคุณก็สวยมากเลย ช่วยส่งให้ฉันด้วยทุกเดือนเลยนะ ขอบคุณมากค่ะ

และนี่คือบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive ที่ Hairworld Plus+ นำมาฝากช่างผมทุกคนในฉบับนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะได้ประโยชน์จากการอ่านในครั้งนี้ และแน่นอน การที่ใครสักคนจะก้าวเข้ามาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อะไรล่ะที่ทำให้เขาทั้งสองยังคงยืนหยัดเป็นช่างผมระดับโลกได้กว่า 10 ปี? เพราะเขามีทั้งความรักในสิ่งที่ทำ มีศรัทธาเชื่อมั่นในตัวเอง ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ และสิ่งสุดท้ายคือ “ไม่หยุดที่จะเรียนรู้” ซึ่งตรงกับสโลแกนของนิตยสาร Hairworld Plus+ ที่ว่า “เป็นช่างผม อย่าหยุดเรียนรู้” เสียจริง ทีนี้ใครที่ยังไม่ได้โหลด Application Hairworld+ ก็รีบเลยเรามีอะไรดีๆ รอให้คุณค้นพบอีกมาก

 

ขอขอบคุณ คุณกันต์ตารัตน์ สิริภัทรคุณ Marketing Manager และคุณธีรศักดิ์ ไตรทิพย์ General Manager แห่ง Schwarzkopf Professional (Thailand) ที่ดูแล Hairworld Plus+ เป็นอย่างดี

 

 

 

 


Posted

in

by

Tags: